พระโสดาบัน คือ อริยบุคคลระดับแรกในระดับของพระอริยบุคคลตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบไปด้วย พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
โสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสธรรม ผู้แรกถึงกระแสธรรม คืออริยมรรค ผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้วด้วยการละ สังโยชน์ เบื้องต่ำ 3 ประการได้คือ
- สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิดในขันธ์ 5 ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตามสภาพธรรม
- วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย เช่นสงสัยในข้อปฏิบัติของตนว่าถูกต้องหรือไม่ สงสัยในพระรัตนตรัยหรือในอริยสัจ 4 ว่ามีจริงหรือไม่
- สีลัพพตปรามาส คือ ความเชื่อถือยึดมั่นว่าความศักดิ์สิทธิ์มีได้ด้วยศีลและพรตอย่างนั้นอย่างนี้ ข้อนี้ขยายความได้ว่ารักษาศีลแต่เพียงทางกาย ทางวาจา แต่ใจยังไม่เป็นศีล หรืออย่างน้อยก็ยังไม่เป็นศีลตลอดเวลา
ทั้งนี้ พระโสดาบัน ไม่จำเป็นต้องอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต เพราะถึงแม้ว่าเป็นคฤหัสถ์ หมายถึง ชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถเป็นพระโสดาบันได้ เช่น ในสมัยพุทธกาล มีคฤหัสถ์ที่เป็นพระโสดาบันที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมาก เช่น นางวิสาขามหาอุบาสิกา อนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร หมอชีวก เป็นต้น
การเข้าถึงกระแสธรรมของพระโสดาบันนั้น เป็นการยกระดับจิตใจอย่างถาวร ผู้ที่บรรลุโสดาบัน แบ่งเป็น
- เอก (เอ-กะ-) พีชี ผู้มีพืช คือ อัตตภาพอันเดียว ก็จะบรรลุเป็นอรหันต์ พืช คือ เชื้อที่จะทำให้มีการเกิด คือ เกิดอีกครั้งเดียว เท่านั้นก็เป็นพระอรหันต์และปรินิพพาน พระโสดาบัน ที่เป็นเอกพิชี นั้น เป็นพระโสดาบันที่มีปัญญามาก มีกำลังวิปัสสนามาก สามารถที่จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาติหน้า คือ อีกเพียงชาติเดียวเท่านั้น โดยมุ่งหมายถึงการเกิดในภพภูมิมนุษย์
- โกลังโกละ แปลว่า ไปสู่ตระกูลจากตระกูล หมายถึง การไปสู่การเกิดใหม่ ไปสู่ภพใหม่ จากภพเดิม สู่ภพใหม่ คือเป็นพระโสดาบัน ที่มีปัญญา มีกำลังน้อยกว่าเอกพิชี มีกำลังปานกลาง ซึ่ง สามารถจะเป็นพระอรหันตในชาติที่ 2 หรือ ท้ายสุดคือ ชาติที่ 6
- สัตตักขัตตุงปรมะ แปลว่า มี 7 ชาติเป็นอย่างยิ่ง คือ พระโสดาบันที่มีกำลังปัญญาน้อยกว่า พระโสดาบันทั้ง 2 ข้างต้น จึงเกิด ในภพสุดท้าย ในชาติที่ 7 เป็นพระอรหันต์ แต่ ไม่เกิดในภพที่ 8 แน่นอน
วัฏฏาภิรตโสดาบันอริยบุคคล คือ พระโสดาบันที่ยินดีในวัฏฏะ ท่านก็จะไม่เกิดในภพที่ 8 มี ชาติสุดท้ายเป็นพระอรหันต์และ ปรินิพพาน ในชาติที่ 7 หมายถึง ท่านก็จะไม่เกิดเกิน 7 ชาติแน่นอน มี ชาติที่ 7 เป็นชาติสุดท้าย ซึ่ง บุคคลที่ ยินดีในวัฏฏะ แต่เป็นพระโสดาบัน คือ อนาถบิณฑิกเศรษฐี วิสาขาอุบาสิกา จูลรถเทวบุตร มหารถเทวบุตร อเนกวรรณเทวบุตร ท้าวสักกเทวราช นาคทัตตเทวบุตร
การที่โสดาบันแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่เพราะว่าอินทรีย์ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา แก่กล้าแตกต่างกัน สำหรับ ผู้ที่อินทรีย์ 5 ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว
อภิฐาน 6 กรรมที่พระโสดาบันไม่กระทำ คือ
1.มาตุฆาต ฆ่ามารดา
2.ปิตุฆาต ฆ่าบิดา
3.อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์
4.โลหิตุปบาท ทำโลหิตของพระพุทธเจ้าให้ห้อ
5.สังฆเภททำสงฆ์ให้แตกกัน
6.อัญญสัตถารุทเทส นับถือศาสดาอื่น คือ เข้ารีต