พระไพรีพินาศ และคาถาบูชาพระไพรีพินาศ ให้ศัตรูแพ้ภัยตนเอง

พระไพรีพินาศ และคาถาบูชาพระไพรีพินาศ ให้ศัตรูแพ้ภัยตนเอง

ประวัติพระไพรีพินาศ

[hide]
พระไพรีพินาศพระไพรีพินาศ
เป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม  มีขนาดหน้าพระเพลา๓๓ เซนติเมตร  เป็นพระพุทธรูปแบบธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร  สมัยศรีวิชัย แต่นักสังเกตบางคนสงสัยว่า พระพุทธรูป สมัยศรีวิชัย มีเพียงเกตุมาลา เป็นจอมคล้ายสมัยทราวดีเป็นพื้น  พระพุทธรูปองค์นี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อยังทรงผนวชอยู่ ราว พ.ศ.๒๓๙๑ ได้ถวายพระนามว่า พระไพรีพินาศ 

ปัจจุบันพระไพรีพินาศประดิษฐานอยู่ ณ เก๋งบนชั้นสองด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ใหญ่ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

ซุ้มเก๋ง ด้านเหนือแห่งพระเจดีย์นั้น เป็นที่ประดิษฐานพระไพรีพินาศ ในการบูรณปฏิสังขรณ์ปีพุทธศักราช ๒๕๐๗-๘ นี้ ทำประตูเหล็ก ๒ ชั้น ช่องหน้าต่างใส่เหล็กทั้งสองข้าง ฝาผนังปิดโมเสก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ปิดทองพระไพรีพินาศ ในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๘ ด้วย

ในหนังสือตำนานวัดมีกล่าวว่า “พระไพรีพินาศ ใคร่ครวญตามพระนามน่าจะได้เชิญประดิษฐานไว้ในเก๋งน้อยที่สร้างใหม่ ณ ทักษิณชั้นบนแห่งพระเจดีย์ในครั้งนั้น เว้นไว้แต่จักได้ประดิษฐานไว้แล้วในครั้งยังทรงผนวชเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๑ ที่เป็นคราวสิ้นเสี้ยนศัตรู ครั้งแรก”  

พระไพรีพินาศ ในสาสน์สมเด็จ เล่ม ๒ หน้า ๘๕-๙๐-๑๑๖

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทูลสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ตั้งปัญหาถามกระหม่อมว่า พระไพรีพินาศนั้น เป็นพระอะไร มาแต่ไหน ทำไมจึงมาอยู่วัดบวรนิเวศ เหตุใดจึงชื่อว่า ไพรีพินาศ เกล้ากระหม่อมหงายท้อง ไม่สามารถตอบได้ อยากรู้เหมือนกัน  เคยทูลถามฝ่าพระบาทก็ไม่ทรงทราบเหมือนกัน หันไปหันมาเห็นกรมหมื่นพงศา จึงลองเข้าจดทูลถามดู ตรัสบอกว่า ใครก็ทรงจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว เป็นผู้นำมาถวายทูลกระหม่อมเมื่อยังทรงผนวชอยู่ เป็นเวลาติดต่อกับที่หม่อมไกรสรถูกสำเร็จโทษ จึงโปรดตั้งพระนามว่าพระไพรีพินาศ”

พระไพรีพินาศเจีดย์ เป็นพระเจดีย์ศิลาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น บรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในพระเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ระหว่างการบูรณะพระเจดีย์ใหญ่ได้เปิดองค์พระไพรีพินาศเจดีย์ดู พบกระดาษสีขาว มีตราแดง ๒ ดวง มีอักษรเขียนว่า “พระสถูปเจดียสิลาบัลลังองค์ จงมีนามว่า พระไพรีพินาศเจดียเทิญ” อีกหน้าหนึ่งเขียนว่า “เพระตั้งแต่ทำแล้วมา คนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ”

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ 

วิธีบูชาพระไพรีพินาศให้เกิดผล

พระไพรีพินาศนั้นได้ชื่อว่ามีดีทางกำหราบศัตรูทั้งปวงที่คิดร้ายแต่คนที่ใช้อานุภาพต้องบริสุทธิ์คือ
1.อยู่ในศีลธรรมอันดีไม่คิดร้ายคนอื่นไม่มัวเมาด้วยโมหะคิดจะเอาชนะคนอื่นเป็นที่ตั้งไม่คิดร้ายต่อผู้คิด ร้ายหรือใส่ร้ายตน
2. ไม่ตอบโต้ด้วย กาย วาจา และใจคงมั่นนความสุจริตเป็นที่ตั้งแม้จะถูกรบกวนหรือให้ร้ายก็ยึดมั่นในอุเบกขา และสันติธรรม
เมื่อมีเหตุผลเช่นนี้แล้วจึงจะอาศัยเป็นผลขอรองรับบารมีจากพระพุทธไพรีพินาศได้อย่างเต็มที่ การรับบารมีทำได้ดังนี้
-เขียนชื่อศัตรูที่มุ่งร้ายตนและนามสกุลตั้งจิตอธิษฐานต่อพระพุทธไพรีพินาศที่มีอยู่กับตัวว่าขอบารมีกำหร าบศัตรูให้แพ้ภัยตัวเองไป
-พับกระดาษที่มีชื่อของศัตรูให้เป็นแผ่นแล้วเอาพระพุทธไพรีพินาศวางทับลงไป
-เมื่อสวดมนต์ไหว้พระแล้วให้แผ่เมตตาไปยังคนผู้นั้นอย่าให้ขาดขอให้เขามีสติระลึกถึงกรรมและเลิกรังควาญรังแก
-เมื่อผู้คิดร้ายสำนึกได้หรือมีอันเป็นไปแล้วเอาชื่อออกและแผ่เมตตาให้ถือว่าเขาได้รับกรรมแล้วเป็นอันสิ้นสุดกรรม

ข้อควรพิจารณา

-ถ้าตนเองคิดร้ายต่อต้านโต้ตอบเขาวันใดผลร้ายนั้นจะย้อนเข้าตัวเองพินาศสิ้นไปด้วยอกุศลกรรม
-ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดก็ตามนำเอานามของพระพุทธไพรีพินาศไปตั้งเป็นสิ่งที่คิดทำร้ายผู้อื่นหรือใช้พระพุทธไพ รีพินาศในทางที่ผิดคือสาปแช่งผู้ที่เขาไม่มีความผิดไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่กล่าวแล้วจะพึงได้รับผลสะท้อนกลับ แบบมูมเมอแรงถึงกับพินาศไปเองด้วยประการต่าง ๆ
-จึงขอให้ทุกท่านที่จะใช้พระพุทธไพรีพินาศโปรดสังวรไว้ด้วยอย่าทำร้ายตัวเองด้วยพระไพรีพินาศเป็นอันขาด

บทสวดพระคาถาบูชาพระไพรีพินาศ
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ สุจิรัง ปะรินิพพุโต
คุเณหิ ธะระมาโนทานิ ปาระมีหิ จะ ทิสสะติ
ยาวะชีวัง อะหัง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณังคะโต
ปูเชมิ ระตะนัตตะยัง ธัมมัง จะรามิ โสตถินา[/hide]