หลวงปู่ศรีจันทร์ มีชื่อเดิมว่า ศรีจันทร์ จันทิหล้า เกิดเมื่อ วันพุธ ขึ้น ๑๓ ค่ํา เดือนยี่ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๗ ณ บ้านฝากเลย อ.วังสะพุง จ.เลย
บิดาท่านชื่อ อมาตย์เพี้ยฤทธิ์ (ลี จันทิหล้า) มารดาชื่อ ตุ๊ จันทิหล้า
ตั้งแต่เกิดมาจําความได้ ท่านเป็นเด็กที่ใจบุญสุนทาน ไม่ยอมเบียดเบียนสัตว์เล็กสัตว์น้อยเลย มีใจเมตตาปรานีอ่อนโยน ไม่ประสงค์ที่จะก่อเวรกรรมอันใดให้ มีขึ้นกับจิตใจนี้เป็นส่วนหนึ่งสมัยเป็นฆราวาส
ต่อมาท่านมีอายุได้ ๑๔ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดศรีชื่นชม ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ โดยมีท่านพระครูหวด เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นสามเณรฝ่ายมหานิกาย
สมัยเป็นสามเณร ท่านมีความรักในการศึกษามาก จึงได้เข้าเรียนพระปริยัติธรรม ต่อมาสนใจทางด้านการปกครอง ท่านจึงต้องเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และอยู่จําพรรษาที่ วัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ)
ณ วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ท่านได้แปรญัตติเป็นฝ่ายพระธรรมยุต และได้สอบถึงนักธรรมชั้นโท…
วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๗ อายุท่านครบบวช จึงขออุปสมบท ต่อ ณ พัทธสีมาวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ โดยพระเดชพระคุณสมเด็จพระสังฆราชกรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตโตนพวงศ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ภายหลังจากบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์แล้ว ท่านได้พยายามศึกษาเล่าเรียนหลักธรรม ในบวรพุทธศาสนาในทุกแขนงวิชา คือ
ทางด้านพระปริยัติธรรม บาลี ท่านสามารถศึกษาจนได้ สอบธรรมเปรียญ ๖ ประโยค เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐
ทางด้านปฏิบัติธรรม หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระกรรมฐาน แด่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้รับอรรถธรรมที่เกิดขึ้นแก่จิตใจเป็นอันมาก ได้อาศัยเจริญสมณธรรมในป่าดงพงไพร อาศัยสถานที่วิเวกห่างไกลผู้คนที่จะมาพลุกพล่านรบกวนเสริมสร้างสมาธิให้แก่กล้ายิ่งขึ้นต่อไป
หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ถึงแม้ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่องค์หนึ่งในจังหวัดเลย แต่ท่านก็มีจริยานิสัยที่นอบน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ
ท่านมีความปกติของจิต คือ ยังรักความวิเวก สันโดษมากกว่า เข้าหมู่คณะเป็นจํานวนมาก ๆ
และด้วยภาระหน้าที่ หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ก็มีความสามารถกระทําจนสําเร็จลุล่วงไปด้วยดีเสมอมา
หลวงปู่ไม่เคยทอดทิ้งการปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ท่านยังถือข้อวัตรปฏิบัติอยู่อย่างเคร่งครัด คือ…บิณฑบาตเป็นวัตร ฉันหนเดียวเป็นวัตร ฉันในบาตร เป็นต้น
ลักษณะผู้นําของหลวงปู่ศรีจันทร์ ท่านกระทําได้พร้อมมูลไม่มีการขาดตกบกพร่อง
หลวงปู่เป็นพระภิกษุที่มีจริยาละเอียดอ่อน บางครั้งท่านก็ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ โดยไม่มีการตําหนิติเตียนผู้ใด เมื่อจะมีใครสักคนหนึ่งทําความผิด พลาดลงไป
หลวงปู่พรั่งพร้อมไปด้วยสติปัญญาที่ได้ฝึกฝนอบรมมาแล้วเป็นอย่างดีเลิศ และธรรมะ ที่หลวงปู่มั่นได้แนะนําพร่ําสอนมานั้น หลวงปู่ศรีจันทร์ ยังนํามาประพฤติปฏิบัติตามอยู่เสมอตลอด เท่าทุกวันนี้
อาการภายนอก เราจะเห็นได้ว่า หลวงปู่ศรีจันทร์ ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์นักปกครอง และ ยังเป็นนักพัฒนาสาระอันเป็น
ประโยชน์แก่พระภิกษุสงฆ์องค์ สามเณรตลอดจนถึงประชาชน โดยทั่วไป
ส่วนอาการภายในนั้น หลวงปู่ศรีจันทร์ ท่านเป็นนักปฏิบัติผู้ยิ่งยง จนได้รับคํายกย่องจากพระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายปฏิบัติที่มีภูมิจิตภูมิธรรมสูง เช่น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม , หลวงปู่คําดี ปภาโส ว่า…หลวงปู่ศรีจันทร์ เป็นนักปฏิบัติเพื่อทางพ้นทุกข์โดยแท้
หลวงปู่ศรีจันทร์ พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แห่งจังหวัดเลยองค์นี้ ท่านได้วางเข็มทิศทางเดินของ ปฏิปทาข้อปฏิบัติ เข้าฟันฝ่าบุกเบิก ดงหนาป่าทึบ แห่งจิตใจ
คือ กิเลสชนิดต่างๆ ภายในจิตใจ ไม่ให้เป็นเสี้ยนหนาม หรือ สิ่งเศร้าหมองปิดทางเดิน เพื่อมรรคผลนิพานของท่านได้เลย
หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ท่านได้เดินธุดงค์มาพบกับสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นเกาะน้อย ๆ สายน้ําเลยไหลผ่าน และเป็นที่รกร้างว่างเปล่ามานาน ท่านจึงมองเห็น คุณค่าที่จะอํานวยประโยชน์ใน ทางพระพุทธศาสนา ดําริที่จะสร้างวัดขึ้น “บนสันดอนเลยหลง”
ครั้นประชาชนรู้ข่าวต่างก็มาร่วมจิตใจก่อสร้างขึ้น เป็นพุทธาวาสงามสง่า ชื่อวัดศรีสุทธาวาส (เลยหลง) อ.เมือง จ.เลย เป็นศูนย์การศึกษาและปฏิบัติธรรมมา ตราบเท่าทุกวันนี้…
หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ ท่านได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ สิริรวมอายุ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓

