วีอาร์ดี ร่วมถวายอาลัย กราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

วีอาร์ดี ร่วมถวายอาลัย กราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
การเดินทางไปกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2559
โดยเราเริ่มเดินทางจากบริเวณใกล้สนามบินดอนเมือง เวลาประมาณ 3.00 น. และเดินทางไปถึงบริเวณใกล้ ๆ
กับโรงแรมรัตนโกสินทร์  เวลา 3.45 น. เมื่อไปถึงเราพบว่ามีประชาชนจำนวนมากได้มาถึงก่อนเราอยู่แล้ว
จากการศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทางพบว่า ประตูทางเข้าที่เปิดให้เข้าไปยังพื้นที่สนามหลวงนั้นมี 4 ทางเข้าได้แก่

  1. ทางเข้าใกล้โรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นประตูที่มีคนนิยมเข้าทางนี้มากที่สุด ในวันที่เราไปถึงนั้น ท้ายแถวมาอยู่บริเวณต้นถนนกัลยาณมิตรไมตรี
  2. ทางเข้าใกล้กระทรวงกลาโหม ต้นแถวจะอยู่บริเวณหัวมุมถนนกัลยาณมิตรไมตรี  เตรียมเลี้ยวซ้ายผ่านกรมแผนที่ทหาร แถวคอยจะอยู่เลียบคลองรอบกรุง ท้ายแถวเมื่อเราไปถึงอยู่บริเวณหน้าวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม
  3. ทางเข้าบริเวณหัวมุมถนนหน้าพระลาน เหมาะสำหรับคนที่มาทางเรือ ขึ้นจากเรือบริเวณท่าช้าง ทางเข้าบริเวณนี้ เรามาเห็นอีกทีตอนออกมาจากการกราบพระบรมศพฯ แล้วกำลังจะกลับ เข้าใจว่าท้ายแถวน่าจะต่อไปทางถนนมหาราช
  4. ทางเข้าบริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ประตูทางเข้านี้ไม่ได้ผ่าน ไม่สามารถบรรยายได้ว่าเป็นอย่างไร)

เราลงรถบริเวณกลางถนนอัษฎางค์ (เลียบคลองรอบกรุง) ก็เห็นคนจำนวนมากมาเข้าแถวรออยู่แล้ว เราเดินไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าไปยังหัวมุมถนนกระทรวงมหาดไทย จนมาเจอท้ายแถวอยู่บริเวณบนสะพานข้ามคลอง ท้ายแถววกไปทางถนนกัลยามิตรไมตรี ซึ่งแถวที่รออยู่นี้ จะเดินเลียบคลองรอบกรุง บนถนนอัษฎางค์ตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นทางเข้า
เราเกือบต่อคิวเข้าแถวทางเข้าทางโรงแรมรัตนโกสินทร์อยู่แล้ว แต่เหลือบไปเห็นต้นแถวสำหรับคนที่ต่อคิวจะเข้าทางเข้าใกล้กระทรวงกลาโหมเสียก่อน จึงตัดสินใจข้ามถนนไปต่อแถวทางเข้าด้านกระทรวงกลาโหม เนื่องจากศึกษาข้อมูลมาว่าทางเข้านี้คนน้อยกว่า เมื่อเดินไปต่อแถว ท้ายแถวก็ไกลไปแล้วเช่นเดียวกัน โดยท้ายแถวที่เราไปถึงอยู่ประมาณบริเวณหน้าวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม จนเวลาประมาณ 4.00 น. แถวก็เริ่มเคลื่อนผ่านอนุสาวรีย์หมูด้านขวามือตรงไปเรื่อย ๆ และเลี้ยวซ้ายผ่านกรมแผนที่ทหาร ตรงไปเรื่อย ๆ จนพบทางเข้า บริเวณต้นถนนกัลยาณมิตรไมตรี
บริเวณทางเข้า จะมีพี่ ๆ ทหารประกาศโดยใช้โทรโข่งให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน ถือระดับหน้าอก ให้เดินผ่านเครื่องสแกนอาวุธ แล้วจึงเก็บบัตรได้ ใครถือกระเป๋า พี่ ๆ ทหารอาจขอเปิดกระเป๋าตรวจสอบ ซึ่งเมื่อผ่านจุด ๆ นี้ไป ก็จะเห็นกำแพงพระบรมมหาราชวังอยู่ด้านหน้า เราเดินเลียบกำแพง ตรงไปยังทางเข้าสนามหลวง บริเวณหน้ากระทรวงยุติธรรม
Tip: เมื่อเข้าประตูไปแล้ว  ใครวิ่ง หรือเดินเร็วได้ให้ทำช่วงนี้ เพื่อให้เข้าไปให้ใกล้ทางเข้ามากที่สุด เพราะเมื่อใกล้ทางเข้าบริเวณพื้นที่สนามหลวงก็จะมีการต่อคิวกันอีกที
ทางเข้าสู่ภายในบริเวณสนามหลวงนี้จะเป็นทางเข้าเดียวกับคนที่เข้ามาจากทางเข้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ โดยพี่ทหารจะสลับแบ่งคนเข้าจากทางเข้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ และทางเข้ากระทรวงกลาโหม สลับ ๆ กัน
เราได้เดินเข้าไปยังพื้นที่ในสนามหลวงเวลา 5.00 น.
ในสนามหลวง ยังมีการต่อคิวไปเรื่อย ๆ จนไปถึงเต้นท์รอ ซึ่งหน้าเต้นท์จะแบ่งเป็น ก ข ค… ซึ่งในแต่ละเต้นท์ จะแบ่งเป็น 3 แถว แต่ละแถวก็จะมีเก้าอี้นั่งเรียง 4 คน แล้วเว้น แล้วก็มีเก้าอี้อีก 4 คน แล้วเว้น และเก้าอีเรียงอีก 4 คน เวลาเรียกแถว จะเรียกเป็นตอนลึกจนหมดแถว จึงเรียกแถวต่อไป
เราเข้าไปถึงที่นั่งเวลา 5.20 น. บริเวณเต้นท์ ค 15 แถวที่ 3 นั่งบริเวณนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างนี้ก็เริ่มมีคนมาแจกน้ำ อาหาร ขนม รูปพระบรมฉายาลักษณ์ ซีดีธรรมะ ในวันที่เราไปถึงมีคนมาแจกของตอนนั่งอยู่  ตอนแรกฟังคนที่ไปมาแล้วว่าไม่ต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มไปเพราะมีคนมาแจก อาหารอุดมสมบูรณ์ แต่ในวันที่เราไปถือว่ามีคนมาแจกของไม่มาก ที่มีแน่ ๆ คือน้ำดื่ม ข้าวต้มมัด ขนมเปี๊ยะ ดีที่เราเตรียมขนมและน้ำดื่มไปบ้าง จึงทำให้ไม่หิวมาก ดังนั้นจึงแนะนำว่าให้เตรียมของว่างไปทานบ้างดีกว่า เพราะของแจกที่มาแล้วแต่วัน แต่ถ้าหิวจริง ๆ สามารถเดินออกมานอกเต้นท์ เพื่อออกมาหาของกินด้านนอกได้ แต่อย่าลืมว่าต้องหยิบบัตรพลาสติก ที่วางอยู่หน้าเต้นท์แต่ละเต้นท์ก่อนเดินออกมา ที่สำคัญอีกประการคือห้องน้ำ ซึ่งเป็นรถห้องน้ำ ที่ทางกทม.มาจอดอยู่หน้าเต้น ซึ่งสังเกตได้ว่ายังไม่เพียงพอ รถแต่ละคันมีต่อคิวยาวมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ดังนั้น จึงควรทานอาหาร และน้ำดื่มน้อย ๆ แค่พออิ่ม น้ำค่อย ๆ จิบ เพราะจะค่อนข้างลำบากเวลาเข้าห้องน้ำ
7.30 น. ถึงเวลาที่แถวของเราจะได้ขยับออกจากเต้นท์ มายืนรอบริเวณทางออกสนามหลวงตรงข้ามมหาวิทยาลัยศิลปากรยืนรอ โดยบริเวณนี้จะไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง ใช้เวลายืนรอบริเวณนี้จนถึงเวลา 8.00 น. ใครอยากเข้าห้องน้ำช่วงนี้ ให้ไปขอบัตรที่พี่ทหาร เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็คืนบัตรให้พี่เขาไป
8.00 น. เรายืนเคารพธงชาติ ก่อนข้ามถนนมาฝั่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งบริเวณนี้จะมีเต้นท์รออยู่ ซึ่งเราขอเรียกว่าเต้นท์ตึกแดง เต้นท์นี้จะมีเก้าอี้ 4 แถวตอนซึ่งมีป้ายบอกว่า ถ้ามาถึงจุดนี้แล้วจะใช้เวลาอีก 1.30 น. แต่เราได้นั่งในบริเวณนี้แค่ประมาณ 20 นาที ก่อนออกจากเต้นท์จะมีคนมาแจกร่ม และสามารถนำร่มไปคืนได้ภายใน เนื่องจากระยะทางจากเต้นท์ตึกแดงไปยังประตูทางเข้าพระบรมมหาราชวัง เป็นที่โล่ง ให้ระวังแสงแดด หรือฝนตกในช่วงระยะทางส่วนนี้
8.20 น. เราเดินข้ามถนนหน้าพระลานเพื่อเข้าสู่พระบรมมหาราชวังทางประตูมณีนพรัตน์ เมื่อเข้าประตูไปแล้วก็จะไปเดินเข้าบริเวณวัดพระแก้ว เดินวนดูจิตรกรรมฝาผนัง และมีหยุดเดินเป็นระยะ ๆ จนเดินออกจากวัดพระแก้วประตูทางปกติ ที่ออกมาจะเจอลานหินกว้าง ๆ หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จากตรงนี้ เดินอีกไม่ไกลเราจะเห็นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สถานที่ ๆ ประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสถาปัตยกรรมทรงศาลาไทยที่โดดเด่น ซึ่งคือพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์
จากหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ไปถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จะมีการตั้งแถวคอยบ้างเป็นระยะ ๆ แต่ไม่นาน
ก่อนเข้าไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ควรปิดเครื่องมือสื่อสารให้เรียบร้อย และไม่ควรถ่ายรูปแล้ว เมื่อเราเดินผ่านทางเข้าไป จะมีเจ้าหน้าที่แจกถุงหิ้วสีดำเพื่อให้ถอดรองเท้าออก โดยจะมีจุดที่นั่งให้ถอดรองเท้าเพื่อใส่ถุงที่แจกไว้ให้ สำหรับผู้ชายจะต้องถอดถุงเท้าออกด้วย เมื่อเก็บรองเท้าถุงเท้า ใส่ถุงพลาสติกเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก็จะเรียกให้ไปตั้งแถว บริเวณนี้ใครถอดรองเท้าเร็วพร้อมก่อน ถ้าเจ้าหน้าที่เรียกเข้าแถวเร็วก็จะได้ไปตั้งแถวรอก่อน แต่ระยะเวลาตรงนี้ก็ไม่ได้เร็วช้ากว่ากันมาก จะได้เคารพพระบรมศพในรอบเดียวกันอยู่ดี
8.40 น. เราได้ตั้งแถวคอยรอหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในช่วงที่เดินขึ้นไปกราบ เจ้าหน้าที่จะเรียกคนเป็น 2 แถวเพื่อเตรียมขึ้นพระที่นั่งฯ และเข้ากราบพระบรมศพ
8.55 น. เมื่อเราได้เข้าไปยังพระที่นั่งฯแล้ว ด้านขวาตรงทางเข้าจะเป็นที่นั่งของเพราะเวลาถวายฉันเช้า และเพล พระบรมโกศจะอยู่ด้านหน้าตรงกลาง ส่วนด้านซ้ายจะเป็นที่ประทับกรณีมีพระบรมวงศานุวงศ์เข้ามาฟังสวด เมื่อเข้าไปเราจะเราจะนั่งลงที่พื้น ซึ่งช่วงเวลานี้เจ้าหน้าที่จะให้โอกาสเราตั้งจิตอธิษฐาน อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะพูดให้สัญญาณ “กราบ” เราจึงก้มตัวไปกราบ 1 ครั้งแบบไม่แบมือ จากนั้น จะมีเวลานั่งอีกประมาณ ไม่เกิน 15 วินาที ก็จะต้องลุกขึ้นเดินไปทางด้านขวา ผ่านส่วนที่พระ 8 รูป (แบ่งเป็นข้างละ 4) นั่งสวดมนต์อยู่ จากนั้นจึงเดินลงจากพระที่นั่งฯ เมื่อลงมาแล้วเราจะเห็นตู้รับบริจาค จากนั้นจะมีบริเวณให้ใส่รองเท้า พร้อมคืนถุงใส่ให้เจ้าหน้าที่ แล้วเดินออกทางประตูกำแพงแก้ว จะได้รับแจกรูปพระโกศ และข้าวเปลือกพอเพียง เดินออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูเทวาภิรมย์ เวลาประมาณไม่เกิน 9.30 น.
รวมระยะเวลาจากเริ่มเดินทาง 6.30 ชม.