บทสวดมนต์ พระปริตรในพระไตรปิฎก

บทปริตร หรือมนต์เครื่องป้องกันอุปัทวันตราย มีในพระไตรปิฎก

1. รัตนปริตร (รัตนสูตร) มาใน ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ พระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระพุทธเจ้าประทานให้พระอานนท์เรียนเอาไปบริกรรมสวดขับไล่สิ่งไม่ดีอันเกิดจากภูตผีปีศาจในเมือง ไพศาลี เมื่อคราวเกิดโรคระบาด จนขจัดปัดเป่าออกไปได้ รูปแบบปริตรเป็นคาถา จึงถูกบันทึกไว้ในหมวดหมู่ ขุททกปาฐะ บทท่องสวด ไม่มีรายละเอียดอื่นๆ ยกเว้นตัวคาถา จึงทำให้ผู้คนบางส่วนไม่เข้าใจว่าบทนี้ทรงให้สวดเพื่ออะไร

รูปแบบคำเป็นคาถาภาษาบาลี ดังนี้

ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ

ภุมฺมานิ วา ยานิ ว อนฺตลิกฺเข ฯ

สพฺเพว ภูตา สุมนา ภวนฺตุ

อโถปิ สกฺกจฺจ สุณนฺตุ ภาสิตํ..

ภูตทั้งหลายผู้สิงสถิตอยู่บนภาคพื้น

หรือผู้สิงสถิตอยู่ในอากาศ ที่มาประชุมกันอยู่ ณ ที่นี้

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอนอบน้อมพระสงฆ์ของพระตถาคต

ที่เทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอให้มีความสวัสดี

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=25&A=78

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=25&siri=6

2. เมตตปริตร หรือเมตตสูตร เป็นบทสวดภาวนาเพื่อให้สัตว์ทั้งหลายรวมทั้งเหล่าเทวดาภูตผีปีศาจไม่มาเบียดเบียน เมื่อเข้าไปสู่ป่า

พระพุทธเจ้าทรงประทานให้พระภิกษุเล่าเรียนไปเพื่อเป็นอาวุธป้องกันตนในคราวไปอยู่ในป่า ผู้สวดจะต้องรู้ความหมายบทบาลี และสวดให้ถูกต้องตามอักขระ และยติตามรูปคาถา คาถา มีในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ มีดังนี้

กรณียมตฺถกุสเลน ยนฺตํ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ

สกฺโก อุชู จ สุหุชู จ สุวโจ จสฺส มุทุ อนติมานี

ผู้ฉลาดในประโยชน์มุ่งหวังบรรลุสันตบท

ควรบำเพ็ญกรณียกิจ ควรเป็นผู้อาจหาญ ซื่อตรง

เคร่งครัด ว่าง่าย อ่อนโยน และไม่เย่อหยิ่ง

ควรเป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย มีกิจน้อย

มีความประพฤติเบา มีอินทรีย์สงบ มีปัญญารักษาตน

ไม่คะนอง ไม่ยึดติดในตระกูลทั้งหลาย

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=25&A=243

ผู้สวดภาวนา ควรสวดวันละ ๒ ครั้ง เช้า และเย็น ปริตรนี้ยังเป็นการเจริญเมตตาไปสุ่สรรพสัตว์

3. มงคลสูตร นับเป็นปริตรอีกบทหนึ่งที่มีความสำคัญสวดเพื่อความสวัสดีมีชัย เป็นคำสอนที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามถึงเหตุแห่งความเจริญ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสตอบ มีเทวดาได้บรรลุธรรมจำนวนมากจนนับไม่ได้ ถือว่าเป็นบทสวดเพื่อความเจริญ ปรากฎในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่มที่ 25 ดังข้อความว่า

อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา

ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ฯ

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=25&A=45

4. อาฏานาฏิยปริตร เป็นพระปริตรที่สำคัญ พระพุทธเจ้าได้รับมอบจากท้าวมหาราชท้ง ๔ นำมามอบให้ เป็นอาญาของมหาราช ที่มอบไว้ป้องกันไม่ให้ภูตปีศาจเทวดา มาเบียดเบียนพุทธบริษัท

มีในพระไตรปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่มที่ ๑๑

วิปสฺสิสฺส จ นมตฺถุ, จกฺขุมนฺตสฺส สิรีมโต.

สิขิสฺสปิ จ นมตฺถุ, สพฺพภูตานุกมฺปิโน.

………………ฯ เป ฯ……………….

ขอนอบน้อมพระวิปัสสีพุทธเจ้า

ผู้มีพระจักษุ มีพระสิริ

ขอนอบน้อมพระสิขีพุทธเจ้า

ผู้ทรงอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั่วหน้า

ขอนอบน้อมพระเวสสภูพุทธเจ้า

……………..ฯ ล ฯ…………………

บทพระปริตรนี้ พระพุทธเจ้าตรัสรับสั่งว่า

อุคฺคณฺหาถ , ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยํ รกฺขํ. ปริยาปุณาถ, ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยํ รกฺขํ. ธาเรถ, ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยํ รกฺขํ. อตฺถสํหิตา , ภิกฺขเว, อาฏานาฏิยา รกฺขา ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ คุตฺติยา รกฺขาย อวิหึสาย ผาสุวิหารายา”ติ

ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ

จงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณีอุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย”

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=11&A=4443

5. ขันธปริตร คาถาป้องกันงู และสัตว์มีพิษต่างๆ ไม่ให้เบียดเบียน เนื่องจากมีพระภิกษุถูกงูกัด พระพุทธเจ้าจึงมอบมนต์เพื่อเจริญเมตตาไปยังตระกูลพญางู ทั้ง สี่ คือ ๑. ตระกูลพญางูวิรูปักขะ ๒. ตระกูลพญางูเอราปถะ

๓. ตระกูลพญางูฉัพยาปุตตะ ๔. ตระกูลพญางูกัณหาโคตมกะ

มาในพระวินัยปิฎก จุลลวรรค ขุททกขันธกะ เล่มที่ ๗

ดังข้อความคาถาว่า

วิรูปกฺเขหิ เม เมตฺตํ เมตฺตํ เอราปเถหิ เม

ฉพฺยาปุตฺเตหิ เม เมตฺตํ เมตฺตํ กณฺหาโคตมเกหิ จ

…………………..ฯ เป ฯ……………………..

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงแผ่เมตตาอย่างนี้

เราขอมีเมตตาต่อตระกูลพญางูวิรูปักษ์

เราขอมีเมตตาต่อตระกูลพญางูเอราปถะ

เราขอมีเมตตาต่อตระกูลพญางูฉัพยาบุตร

เราขอมีเมตตาต่อตระกูลพญางูกัณหาโคตมกะ

เราขอมีเมตตาต่อเหล่าสัตว์ที่ไม่มีเท้า

เราขอมีเมตตาต่อเหล่าสัตว์สองเท้า

เราขอมีเมตตาต่อเหล่าสัตว์สี่เท้า

เราขอมีเมตตาต่อเหล่าสัตว์หลายเท้า

ภาษาบาลี

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=7&A=201

แปลไทย

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=07&siri=4

6. โมรปริตร เป็นบทมนต์ที่พระโพธิสัตว์เมื่อเสวยชาติเป็นนกยูงทอง ร่ายคาถานี้จึงพ้นภัยทั้งหลาย พระพุทธเจ้านำมาตรัส จึงถือว่าเป็นพุทธพจน์ มีคตินิยมนำมาสวดเพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ ปรากฎในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่มที่ 27 ว่า

อุเทตยํ จกฺขุมา เอกราชา, หริสฺสวณฺโณ ปถวิปฺปภาโส ;

ตํ ตํ นมสฺสามิ หริสฺสวณฺณํ ปถวิปฺปภาสํ, ตยาชฺช คุตฺตา วิหเรมุ ทิวสํ.

……………….. ฯ เป ฯ ………………..

(นกยูงทองโพธิสัตว์เมื่อจะผูกมนต์เพื่อรักษาป้องกันตัวก่อนออกหากิน

ได้กล่าวคาถานี้ว่า)

[๑๗] ดวงตาของโลก

เป็นเจ้าแห่งแสงสว่างอย่างเอก

กำลังอุทัยทอแสงเรืองรองสว่างไปทั่วปฐพี

เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอน้อมไหว้พระอาทิตย์นั้น

ซึ่งทอแสงเรืองรองสว่างไปทั่วปฐพี

วันนี้ ข้าพเจ้าได้ท่านคุ้มครองแล้ว

พึงอยู่เป็นสุขตลอดวัน

……………. ฯ ล ฯ ……………….

บาลี

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=27&A=1070

แปลไทย

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=27&siri=159

7. อังคุลิมาลปริตร พระปริตรสวดเพื่อความสวัสดี โดยการอ้างเอาสัจจกริยาของพระองคุลีมาล ที่กล่าวต่อหน้าหญิงตั้งครรภ์แล้วคลอดอย่างปลอดภัย ตามคำแนะนำของพระพุทธเจ้าว่าให้กล่าวแบบนี้

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “องคุลิมาล ถ้าเช่นนั้น เธอจงเข้าไปหาสตรีนั้นถึง

ที่อยู่แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า

‘น้องหญิง ตั้งแต่อาตมภาพเกิดมาโดยอริยชาติ ไม่เคยรู้ว่า จงใจปลงชีวิตสัตว์เลย ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่เธอ ขอความสวัสดี จงมีแก่ทารกในครรภ์ของเธอเถิด”

เมื่อองคุลีมาล นำคำพูดนี้ไปกล่าวต่อหน้าสตรีมีครรภ์ปรากฎว่า นางคลอดปลอดภัย ดังนั้นจึงถือว่าเป็นบทพุทธมนต์ที่พระพุทธเจ้าประทานให้พระองคุลีมาลนำไปกล่าวเพื่อความสวัสดี และจึงถือว่าเป็นพระปริตรบทหนึ่ง ที่สามารถนำไปสวด มาในพระไตรปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่มที่ 13 เป็นบทร้อยแก้ว บาลีว่า

‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต, นาภิชานามิ สญฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปตา, เตน สจฺเจน โสตฺถิ เต โหตุ, โสตฺถิ คพฺภสฺสา’”ติ.

บทบาลี

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=13&A=9770

ภาษาไทย

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=13&siri=36

8 วัฏฏกปริตร คาถากันไฟไหม้ เป็นบทมนต์ในครั้งที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นนกคุ้ม ยังเล็กถูกไฟป่าไหม้มาถึง จึงได้ทำสัจจกริยา อ้างเอาคุณความดีคือศีล สัจจะ คุณของพระพุทธเจ้า และความสัจจ ทำให้ไฟดับลง จึงถือว่าเป็นบทปริตรที่มีอานุภาพ เพราะเมื่อนำคุ้มกล่าวบทนี้แล้วไฟหยุดไหม้ ตลอดกัปที่ตรงนั้น ไฟไม่ไหม้อีกเลย พระพุทธเจ้าตรัสมนต์บทนี้ไว้ พระโบราณาจารย์จึงเห็นว่าเป็นบทมนต์ป้องกันไฟไม้ หรือดับไฟได้ จึงนิยมนำมาสวดในงานมงคล ขึ้นบ้านใหม่ เพื่อไม่ให้ไฟไหม้ ตามที่มา พระไตรปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ จริยาปิฎก เล่มที่ ๓๓ ดังบาลีว่า

อตฺถิ โลเก สีลคุโณ, สจฺจํ โสเจยฺยนุทฺทยา;

เตน สจฺเจน กาหามิ, สจฺจกิริยมุตฺตมํ.

อาเวชฺเชตฺวา ธมฺมพลํ, สริตฺวา ปุพฺพเก ชิเน;

สจฺจพลมวสฺสาย, สจฺจกิริยมกาสหํ.

สนฺติ ปกฺขา อปตนา, สนฺติ ปาทา อวฺจนา;

มาตาปิตา จ นิกฺขนฺตา, ชาตเวท ปฏิกฺกม’.

สหสจฺเจ กเต มยฺหํ, มหาปชฺชลิโต สิขี;

วชฺเชสิ โสฬสกรีสานิ, อุทกํ ปตฺวา ยถา สิขี;

สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี”ติ.

ศีลคุณ ความสัตย์ ความสะอาด

และความเอ็นดู ยังมีอยู่ในโลก

ด้วยความสัตย์นั้น เราจักทำสัจจกิริยาอันยอดเยี่ยม

เราระลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้พิชิตมารซึ่งมีในก่อน

คำนึงถึงกำลังพระธรรม ได้กระทำสัจจกิริยา

เพื่อฝนคือกำลังความสัตย์ว่า

ปีกของเรามีอยู่ แต่ขนไม่มี เท้าของเรามีอยู่

แต่ยังเดินไม่ได้ มารดาและบิดาก็พากันบินออกไปแล้ว

แน่ะไฟจงกลับไป(จงดับไปเสีย)

พร้อมกับเมื่อเราทำสัจจกิริยา

เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงเว้นที่ไว้ ๑๖ กรีส

เหมือนเปลวไฟที่จุ่มน้ำ บุคคลมีสัจจะเสมอเราไม่มี

นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ฉะนี้แล

คาถานี้

บาลี

https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=33&A=12094

แปลไทย

https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=33&siri=248