มุมสัมพันธ์ของดาว

ดวงดาวและมุมสัมพันธ์ของดวงดาวและความหมายทางโหราศาสตร์

1 กุม หรือ ร่วมราศี
คือ ดาวตั้งแต่ 2 ดวงขึ้นไปอยู่ในราศีเดียวกัน ความสัมพันธ์ของดาวลักษณะนี้จะให้ผลหนักแน่น ถ้าเป็นดาวจร เรียกว่า ทับ

2 ร่วมเรือน
คือ ดาวที่สถิตอยู่ในราศี อาจมีความสัมพันธ์ถึงกันได้ โดยเรือนราศีที่ดาวนั้น สถิตอยู่นั้น ๆ เป็นเรือนของ ดาวเกษตรเดียวกัน โดยถือเสมือนบ้านเดียวกัน(เจ้าของบ้านคนเดียวกัน) ย่อมมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องแก่กัน

3 แฝงเรือนเกษตร (เรือนพาไป คล้ายกับร่วมเรือน เรียกอีกอย่างว่า เงาของดาว )
ดาวที่สถิตในราศีหนึ่ง จะมีอำนาจหรืออิทธิพลและมี ความหมายไปถึงอีกราศีหนึ่งได้ โดยราศีนั้นเป็นเรือน เกษตรเดียวกัน กับราศีที่ตนสถิตอยู่

4 แฝงดาวเกษตร
ดาวที่สถิตในราศีหนึ่ง มีโอกาสที่จะเกิดความสัมพันธ์ถึงราศีอื่น และดาวในราศีอื่นได้ โดยวิธีของ “แฝงดาวเกษตร” คือ ถ้าเจ้าเรือนเกษตรที่ตนสถิตนั้น ไปครองอยู่ในราศีใด ก็จะเป็นสื่อนำ ความสัมพันธ์ของตนนั้นเข้าสัมผัสกับราศี และดาวที่อยู่ราศีนั้น ๆ รวมถึงมีความสัมพันธ์ กับเจ้าเรือนราศีนั้น โดยทางสื่อสัมพันธ์จากดาวเกษตรนั้น ๆ ด้วย

5 ศูนยพาหะ
คือ ดาวที่นำหน้าดาวอื่น 1 ราศี แต่ถ้าราศีข้างหน้าเป็นราศี ว่างไม่มีดาวอยู่ ก็ถือว่าดาวที่อยู่ในเรือนที่ 3 เป็นดาวศูนยพาหะ ซึ่งดาวที่อยู่ข้างหน้าจะมีอิทธิพลต่อดาวที่อยู่ข้างหลัง อย่างมาก

6 จตุโกณ หรือ เกณฑ์
คือมุมที่ดาว อยู่ห่างกัน 4 ราศี เป็น 1 4 7 10 แก่กัน เป็นมุมที่ให้ผลรุนแรง หนักแน่นทั้งด้านดีและร้าย

7 โยค
คือ มุมที่ดาว อยู่ห่างกัน 3 ราศี ถ้าอยู่ข้างหน้าเรียกว่า โยคหน้า (เป็น 3) ถ้าอยู่ข้างหลัง เรียกว่า โยคหลัง (เป็น 11 )

8 ตรีโกณ
คือ ดาวที่อยู่กัน 5 ราศี เป็นมุมที่เกื้อกูลกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ถึงแม้จะเป็นดาวให้โทษ ก็ให้ผลดีบ้างเพราะร่วมราศีธาตุเดียวกัน

9 กฎแรงเอื้อม
ดาว ๓ แรงเอื้อม เป็น 4 8 , ดาว ๕ แรงเอื้อมเป็น 5 9 , ดาว ๗ แรงเอื้อมเป็น 3 10